เอาตัวรอดจากอาการแฮงก์โอเวอร์

วิธีเอาตัวรอดจากอาการแฮงก์โอเวอร์แบบกรีนๆ

คืนไหนที่มีปาร์ตี้จัดหนัก ลำเลียงแอลกอฮอล์ลงกระเพาะ คืนนั้นอันเป็นต้องเมาแปล๋ แถมตื่นเช้ามาก็ได้แต่นอนจิบน้ำเย็นบนโซฟา ตาจ้องทีวีพร้อมๆกับอาการปวดเศียรเวียนเกล้า พะอืดพะอมหมดเรี่ยวแรง เรามีวิธีการเอาตัวรอดจากอาการเมาค้างแบบกรีนๆมาฝากครับ

ก่อนปาร์ตี้
ก่อนดื่มประมาณซักชั่วโมงควรรองท้องด้วยต้มจับฉ่าย หรืออาหารที่มีกะหล่ำปลีเยอะๆจะได้มีโปรตีนและคาร์โบไฮเดรตอย่างเพียงพอ

ระหว่างปาร์ตี้
โซดาอาจเป็นมิกซ์เซอร์ที่โดนใจใครหลายๆคน แต่รู้หรือไม่ว่าโซดานั้นทำให้การดูดซึมแอลกอฮอลล์ได้อย่างเร็วขึ้น… แน่นอนว่าคุณจะเมาเร็วขึ้นด้วย ทางที่ดีควรหามิกซ์เซอร์อย่างอื่นซะ. หรืิไม่ก็น้ำเปล่านั่นแหละเป็นหนทางที่ดีที่สุด
ถ้าจะให้แจ่มต้องสั่งอาหารที่มีส่วนประกอบมะนาว แครรอท มันฝรั่ง และผักขมมาทานระหว่างการดื่มเพื่อสร้างวิตามินบี6 ให้กับร่างกาย ซึ่งจะช่วยไม่ให้มีการการมึนเมา หรือถ้ามีอาการก็ไม่มากจนถึงขั้นควบคุมตัวเองไม่ได้และยังช่วยอาการเมาค้างได้อีกด้วยนะ

หลังปาร์ตี้
หลังปาร์ตี้จบ ลงชวนเพื่อนๆไปหาชาสมุนไพรหรือชาร้อนๆดื่มซัก2-3 แก้วก่อนนอน แล้วาการเมาค้างจะลดลงกว่าครึ่ง ก็จำพวกชามะตูม กระเจี๊ยบ แปะก๊วย เป็นต้น
ตื่นนอนมาตอนเช้าต้องอาบน้ำเย็นๆเพื่อให้ร่างกายตื่นตัว จากนั้นก็คั้นน้ำมะนาวสดๆ ผสมกับเกลือและน้ำผึ้งเล็กน้อย ดื่มพร้อมแอปเปิ้ลหรือฝรั่ง1ลูก วิตามินซีที่ได้จะทำให้อาหารแฮงก์โอเวอร์ทุเลาลง แถมยังช่วยฟื้นฟูร่างกาย และเรียกความสดชื่นให้คุณได้เป็นอย่างดีเชียวหล่ะ
หากมีอาการคลื่นเหียนอยากอาเจียรขึ้นมาหล่ะก็… ลองชงน้ำขิงดื่ม ค่อยๆจิบไปสลับกับน้ำเย็นๆ อาจใช้ขิงผงสำเร็จรูปก็ได้แล้วอาการดังกล่าวจะค่อยๆ บรรเมาลง
ถ้าโลกหมุน ปวดและวิงเวียนศีรษะ ดื่มน้ำเก็กฮวยเย็นๆซักแก้ว… เพราะเก็กฮวยมีสรรพคุณช่วยให้อาการปวดหัวได้เป็นอย่างดีแถมยังช่วยแก้กระหายน้ำได้ยอดเยี่ยม
ตอนสายๆให้ทานแตงโมแช่เย็น เพราะแตงโมมีสารสำคัญที่ชื่อ CITRULLINE ช่วยแก้กระหายน้ำและถอดพิษแอลกอฮอลล์ได้เป็นอย่างดี แต่ถ้ายังไม่หายมึนหัวหล่ะก็ รีบหาแกงเลียงร้อนๆมาซดซะ เพราะผักและสมุนไพรในแกงเลียงมีฤทธิ์ช่วยขับลม ทั้งกระชาย แมงลัก ตำลึง ฟักทอง ข้าวโพดอ่อน ถ้าเรอเอิ๊กได้เมื่อไหร่ แสดงว่าอาการแฮงก์โอเวอร์ได้หายไปในอากาศแล้ว…

ขอบคุณบทความดีๆจาก 10PM
http://www.10pmmag.com

อยากกด Like อะไรในยุค 90’s ??

          ขณะฟังเพลงเก่าๆของค่าย RS อยู่ขณะนี้ ทำให้ผมนึกถึงตอนเด็กๆสมัยวัยรุ่นในยุค 1990-1999 ในยุคก่อนที่จะมีการเปลี่ยนแปลงมากมาย จนแทบจะจำกลิ่นอายของความคลาสสิกในยุคนั้นไม่ได้ ทั้งสังคม วัฒนธรรม การใช้ชีวิต ความเป็นอยู่ ฯลฯ ล้วนแล้วแต่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคตามสมัย ถ้าพูดในยุคนี้ก็ต้องบอกว่าอะไรๆก็ต้อง
โมเดิร์น (modern) ซึ่งตรงข้ามกับความ คลาสสิก (classic) ในทางกลับกันถ้านับจากนี้ต่อไปอีก 20-30 ปีข้างหน้า ในยุคปัจจุบันขณะนี้ก็จะกลายเป็นความคลาสสิกของอนาคตแทน สิ่งใหม่ๆที่ดีกว่า(ของคนในสังคมส่วนมาก)ก็จะเข้ามาแทนที่ สิ่งเก่าๆที่ไม่สามารถคงอยู่ได้ ก็ต้องตายจากไปตามกาลเวลา…

แต่อะไรเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวหล่ะ คงไม่ใช้แค่ “เวลา” ซึ่งเป็นสิ่งสมมุติเท่านั้นหรอกครับ ผมว่ามีหลายตัวแปรที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากกว่าคำว่าเวลา …….ในตอนท้ายผมจะวิเคราะห์เองเล่นๆว่าอะไรน้าาาที่ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่างๆเกิดขึ้นที่เป็นผลกระทบต่อคนในสังคมในมุมกว้าง
แต่ช่วงแรกนี้ตามที่จั่วหัวไว้นั้นผมจะหาสิ่งต่างๆในยุค 90’s ที่ผมคิดถึงและผมก็เชื่อว่าใครหลายๆคนก็คงคิดถึง หรืออย่างน้อยคงต้องนึกถึงมันบ้างแหละน่า นั่งไทม์แมชชีนกลับไปยุคนั้นกันครับ

ต่อไปนี้จะเป็น Top10

Techno Toy ของเล่นราคาแพง

Gadget ต่างๆ

ในยุคแห่งข้อมูลข่าวสารที่มีการใช้เทคโนโลยีสื่อสารจำพวก devices ต่างๆ กับเทคโนโลยีสารสนเทศ หรือ information technology ในทุกวันนี้พูดได้ว่าเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการใช้ชีวิตประจำวันค่อนข้างมาก จะสังเกตเห็นได้ว่าบางคนนั้นไม่สามารถออกจากบ้านได้เลยถ้าขาด โทรศัพท์

ยิ่งนับวันโทรศัพท์ก็เป็นได้มากกว่าแค่การ โทรออก-รับสาย แต่สามารถทำงานได้แทบจะใกล้เคียงกับคอมพิวเตอร์เล็กๆเครื่องหนึ่งเลยทีเดียว นั้นก็ด้วยเทคโนโลยีทางการสื่อสารที่พัฒนารูปแบบได้อย่างรวดเร็วถ้าเทียบกับในยุคประวัติศาสตร์ ซึ่งกว่าจะมีการพัฒนาเทคโนโลยีออกมาซักหนึ่งอย่างต้องใช้เวลาอย่างน้อย 20-30 ปีในการคิดค้นเทคโนโลยีขึ้นมา แต่ปัจจุบันเราจะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีใหม่สามารถเกิดขึ้นได้ทุกปี ทุกเดือน ทุกวัน และทุกนาที! Gadget ต่างๆพากันวางขายเหมือนกับของเล่นชิ้นใหม่แทนตุ๊กตากระดาษ เด็กสมัยนี้ต้องมี iPhone, BlackBerry, iPad ฯลฯ ทั้งๆที่พวกเค้าเหล่านั้นยังไม่สามารถหารายได้ด้วยตัวเองด้วยซ้ำไป…หรือมันจะเป็นเพียงแค่ Techno Toy

ถ้าเด็กสมัยนี้ไม่รู้จัก ตุ๊กตากระดาษ โดนหนังยาง เล่นหมากเก็บ ฯลฯ ก็คงไม่แปลกเพราะยุคสมัยได้เปลี่ยนไปแล้ว เด็กๆในยุคนี้รวมถึงผู้ใหญ่บางคนใช้เงินไปกับ ของเล่นทางเทคโนโลยีรวมถึง บริการทางเทคโนโลยี สูงมาก เช่น มือถือที่สามารถเชื่อมเข้าสู่โลกของ Online Social มือถือที่สามารถ Chat กับเพื่อนๆได้ตลอดเวลา การบริการส่ง SMS MMS แสดงความคิดเห็นต่างๆผ่านทางโทรทัศน์ บริการเสียงรอสาย ฯลฯ ซึ่งล้วนแล้วแต่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มทั้งนั้น

ผมว่าเทคโนโลยีนั้นมันจะมีคุณค่ามาก ถ้าเรารู้จักการนำเทคโนโลยีมาใช้ในทางที่ถูกต้อง เหมาะสม และใช้ให้มันเกิดประโยชน์จริงๆ ไม่ใช่เห็นมันเป็นเพียง Fashion ตามกระแสสังคมเท่านั้น เราไม่มีทางตามเทคโนโลยีได้ทันหรอกครับเพราะอย่างที่บอก มันมีสิ่งใหม่ๆเกิดมาเพื่อล่อเงินในกระเป๋าคุณทุกวัน จงอยู่กับตัวเองและคนรอบข้าง (คนจริงๆนะครับ ไม่ใช่คนในโทรศัพท์)

โฆษณา 3D LCD บนนิตยสาร

ถ้าบอกว่า 3D ในโรงภาพยนตร์หรือ 3D LCD ทำให้คุณรู้สึกเหมือนอยู่ในเหตุการณ์จริงๆหล่ะก็

ลองมาดูโฆษณา 3D บนนิตยสารดูกันบ้าง ว่าจะ 3D สมจริงแค่ไหน

โฆษณา 3D LCD บนนิตยสาร

new Starbucks’s logo on the cup

This is first day,the new starbucks’s logo launching on the cup

เป็นที่กล่าวขวัญว่าการปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ของสตาร์บัคส์ที่ทำให้ดูทันสมัยขึ้นนั้น ทำเอาแฟนคลับสตาร์บัคส์ไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่เพราะมันลดความคลาสสิคลง แต่กลับโมเดิร์นขึ้น ผมก็ว่ามันเหมือนของปลอม! เพราะความไม่คุ้นชิน ไม่แน่บรรยากาศภายในร้านอาจต้องปรับเปลี่ยนใหม่ด้วย เพื่อให้เข้ากับ mood & tone ของโลโก้ใหม่ด้วย และที่ตัดคำว่า Starbuck Coffee ออกนอกจากจะ simple แล้ว (simple ตรงไหน ดูยังไงก็เยอะอยู่ดี) เพราะว่าต่อไป Starbucks จะไม่ได้ทำแค่กาแฟแล้ว

เดี๋ยวรอดู feedback ต่อไปว่าการปรับเปลี่ยนแบรนด์ในครั้งนี้จะทำให้สตาร์บัคส์นั้นต้องตัดสินใจกลับมาใช้ของเดิมที่อาจจะดีอยู่แล้วหรือป่าว